รัฐบาลเดินหน้าปราบปรามคอร์รัปชั่น
เพิ่มอำนาจศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต
ติดตามรัฐวิสาหกิจและองค์การมหาชนในกำกับ เปิดเผย
สถานการณ์ทุจริตลดลงอย่างชัดเจน
พลตรีสรรเสริญ แก้วกำเนิด
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (คตช.) ว่า
ที่ประชุมได้เห็นชอบเพิ่มเติมอำนาจหน้าที่ ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต
(ศปท.) ทำหน้าที่ประสานงาน เร่งรัด กำกับ และติดตาม
ให้รัฐวิสาหกิจและองค์การมหาชนในกำกับของกระทรวง
ดำเนินการตามแผนปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ
รวมทั้งติดตามประเมินผลการดำเนินงาน โดย นายกรัฐมนตรี กำชับว่า
การปราบปรามการทุจริต ต้องลงมือปฏิบัติอย่างจริงจัง เป็นรูปธรรมทุกระดับ
และมีประสิทธิภาพ เมื่อมีข้อมูลเจ้าหน้าที่รัฐเข้าข่ายถูกตรวจสอบ
จะแจ้งให้หน่วยงานต้นสังกัดดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ เมื่อดำเนินการแล้ว
จะรายงานผลมายังศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.)
เพื่อส่งให้หน่วยตรวจสอบพิจารณาต่อไป
ซึ่งที่ผ่านมามีการประกาศรายชื่อเจ้าหน้าที่รัฐอยู่ระหว่างการตรวจสอบ 258
ราย ต้นสังกัดดำเนินการทางวินัยแล้ว 62 ราย แบ่งเป็นให้ไล่ออก 8 ราย
พ้นจากตำแหน่ง 25 ราย
ที่เหลืออยู่ระหว่างการตรวจสอบกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
หรือ ป.ป.ช.ว่า ผลการพิจารณาตรงกันหรือไม่
พลตรีสรรเสริญ แก้วกำเนิด กล่าวอีกว่า
นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ
ยังฝากให้พิจารณากลไกที่เหมาะสม ในการดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ระดับล่าง
ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำทุจริต และจากกลไกต่างๆ ที่รัฐบาลดำเนินการ
พบว่าการทุจริตลดลงอย่างชัดเจน
Post a Comment