รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีรณรงค์ให้ผู้ประกอบการเลิกใช้โฟมบรรจุอาหารที่ตลาดรังสิต จังหวัดปทุมธานี
วันนี้ (2 ก.ย.2559) เวลา 14.30 น.
หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายอำพล
วงศ์ศิริ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค นายพิบูลย์ หัตถกิจโกศล
รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่รณรงค์ให้ผู้ประกอบการเลิกใช้โฟมบรรจุอาหาร
ณ ตลาดรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ในโครงการรณรงค์ร่วมใจ
เลิกใช้โฟมบรรจุอาหาร
ซึ่งข้อมูลจากกรมอนามัยในปัจจุบันพบว่ามีองค์กรปลอดโฟม 100% จำนวน 9,492
แห่งทั่วประเทศจาก 130 องค์กร
เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค
กล่าวว่า การใช้ภาชนะโฟมบรรจุอาหารร้อนจัดจะทำให้โฟมเสียรูปทรง
เกิดการหลอมละลายและมีสารเคมีที่อยู่ในเนื้อโฟม
ซึ่งมองไม่เห็นปนเปื่อนออกมาอยู่ในอาหาร
โดยสารเคมีที่พบในภาชนะโฟมบรรจุอาหารที่สำคัญ ได้แก่ สารสไตรีน
เป็นสารก่อมะเร็งเพิ่มความเสี่ยงเกิดมะเร็งเต้านมและมะเร็งต่อมลูกหมาก
มีผลต่อสมองและเส้นประสาท ทำให้อ่อนเพลีย หงุดหงิดง่าย นอนหลับยาก
ระบบฮอร์โมนในร่างกายผิดปกติ
ทำให้มีปัญหาต่อมไทรอยด์และประจำเดือนในสตรีผิดปกติ สารเบนซิน
ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งเช่นกัน
สารชนิดนี้ละลายได้ดีในน้ำมันเมื่อเข้าสู่ร่างกายทำให้เกิดอาการวิงเวียน
คลื่นไส้อาเจียน หัวใจเต้นแรง หากได้รับสารชนิดนี้เป็นเวลานาน
ทำให้เป็นโรคโลหิตจางเนื่องจากสารเบนซินจะทำลายไขกระดูก
ทำให้จำนวนเม็ดเลือดลดลงและสารพทาเลท
เป็นสารที่มีพิษต่อระบบสืบพันธุ์ทำให้ผู้ชายเป็นหมัน
หากเป็นหญิงมีครรภ์อาจมีอาการดาวน์ซินโดรมและอายุสั้นได้
ซึ่งการละลายของสารเคมีทั้ง 3 ชนิดนี้จะมากน้อยขึ้นอยู่กับปัจจัย 3 ประการ
ได้แก่ อุณหภูมิของอาหาร ไขมันในอาหารและระยะเวลาที่อาหารสัมผัสกับภาชนะโฟม
โดยเฉพาะอาหารที่มีไขมันสูง เช่น อาหารประเภทผัดทอด
จะทำให้สารสไตรีนละลายออกมาได้มากกว่า
Post a Comment